บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นำร่องการยกระดับคุณภาพการศึกษา ผ่านการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ จำนวน 46 แห่ง ภายใต้การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) ระหว่าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และสถานศึกษาในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีคุณโสภณ ราชรักษา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและสมรรถนะองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) และ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าร่วมพิธีลงในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ณ โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์

โดยพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจด้วยร่วมมือดังกล่าว ดำเนินงานภายใต้โครงการ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ ของนโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นโมเดลการนำร่องพัฒนาโรงเรียนคุณภาพครั้งแรกของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมทั้งสิ้น 46 แห่ง แบ่งเป็น ชั้นประถมศึกษา 23 แห่ง และมัธยมศึกษา 23 แห่ง จาก 23 อำเภอ พัฒนาไปเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และแชร์ทรัพยากรร่วมกัน และเตรียมความพร้อมให้กับโรงเรียนในการรองรับนักเรียนขยายโอกาส เป็นการแบ่งเบาภาระในการรับนักเรียนโรงเรียนแข่งขันสูงกลับสู่ชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและชัดเจนให้กับโรงเรียนในพื้นที่ผ่านแผนการพัฒนาองค์รวม และเกิดความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับทางการศึกษา เป็นพื้นที่ต้นแบบเพื่อนำไปต่อยอดในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ไทยเบฟมีความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต การเป็นคนดี และการทำมาค้าขายอย่างยั่งยืน ภายใต้การดำเนิน โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) โดยเชื่อว่าทักษะเหล่านี้จะสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นรากฐานที่สำคัญให้เด็กๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดูแลตนเอง สามารถปรับตัวและก้าวทันสถานการณ์โลกในศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการพัฒนาคุณภาพ และรังสรรค์นวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษา ให้สามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้แก่ผู้เรียน โดยกว่า 6 ปีที่ดำเนินโครงการมา มีผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการกว่า 100,000 คน ใน 25 โรงเรียน ใน 18 จังหวัด และสะท้อนของความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่ช่วยกันพัฒนาศักยภาพเด็ก ๆ สร้างรากฐานให้เติบโตไปมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน